
อ.พงค์ศักดิ์ (Admin)
1 ต.ค. 2566
"Phone Tracker" เป็นแอพพลิเคชันที่ใช้ในการติดตามหรือสำรวจตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ที่ต้องการติดตาม อาจมีความสามารถต่าง ๆ และวิธีการทำงานที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแอพพลิเคชันที่คุณใช้งาน นี่คือสิ่งที่ "Phone Tracker" สามารถทำได้
App Tracking เป็นคุณลักษณะใหม่ของ iOS, iPadOS และ tvOS 14.5 ที่ต้องใช้แอปพลิเคชัน เพื่อขออนุญาตหากต้องการติดตามกิจกรรมของคุณในแอปและเว็บไซต์ของบริษัทอื่น ๆ บนอุปกรณ์ Apple ของคุณ ซึ่งจะมีสิ่งเฉพาะที่เรียกว่า“ ตัวระบุโฆษณา” ซึ่งสามารถใช้เพื่อระบุอุปกรณ์ของคุณแบบไม่ซ้ำกัน โดยมีวัตถุประสงค์ในการกำหนดเป้าหมายโฆษณาและการติดตาม ด้วยการเชื่อมโยงตัวระบุนี้กับข้อมูลอื่น ๆ นั่นจึงทำให้นักพัฒนาแอปฯ สามารถสร้าง, บันทึกได้โดยละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้ iPhone หรือ iPad ของคุณรวมถึงในแอปอื่น ๆ รวมถึงเว็บไซต์ด้วย
หลังจากติดตั้ง iOS 14.5 แล้วแอปฯ ทั้งหมดจำเป็นต้องมี App Tracking Transparency ใหม่เพิ่มเข้ามา เพื่อขออนุญาตจากคุณในการติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ที่คุณทำบนอุปกรณ์ ตัวอย่างเช่น Facebook สามารถติดตามกิจกรรมของคุณใน Facebook, Facebook Messenger, Instagram และ WhatsApp ได้โดยไม่ต้องถาม เป็นต้น แต่เมื่อมีสิ่งนี้ หากแอปฯ ต้องการทราบว่าคุณโต้ตอบหรือทำกิจกรรมอื่นอย่างไรหรือติดตามคุณในเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชม จะต้องขอข้อมูลจากคุณและได้รับการอนุญาตก่อน ซึ่งในขณะนี้เวลาเราเข้าเว็บไซต์หลาย ๆ เว็บไซต์เราจะเห็นการขออนุญาตเพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและกิจกรรมของคุณบนเว็บไซต์ เพื่อให้สอดคล้องกับ PDPA (Personal Data Protection Act) หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะถูกนำมาใช้ในประเทศไทย
เมื่อแอปพลิเคชันที่คุณเลือกสามารถตอบโจทย์การติดตามและมีการเชื่อมต่อที่ตรงตามวิธีการใช้งานของคุณแล้ว การพิจารณาฟีเจอร์เสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มาพร้อมกับแอปพลิเคชันก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มขีดความสามารถในการติดตามและให้คุณใช้งานแอปนั้นได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบการเคลื่อนไหวแบบ Real Time การแจ้งเตือนเมื่อออกนอกพื้นที่ หรือการสั่งงานเครื่องปลายทาง เช่น การตรวจสอบบันทึกการโทรเข้า-ออก หรือสั่งล็อกอีกอุปกรณ์โดยอัตโนมัติเมื่อสูญหาย เป็นต้น